ในส่วนของวัสดุที่ใช้ตกแต่งพื้นบ้านนั้น ปัจจุบันถือได้ว่ามีหลากหลายชนิดหลากหลายประเภทด้วยกัน แถมยังถูกแบ่งแยกในส่วนของรูปแบบ สีสันและลวดลายออกมาอย่างมากมายเลยทีเดียว สำหรับวัสดุที่นิยมถูกนำมาเลือกใช้นั้น คงจะไม่พ้นไปจาก “กระเบื้องปูพื้น” ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็น “กระเบื้องเซรามิก” เนื่องจากมีรูปแบบที่ค่อนข้างจะหลากหลาย แถมยังสามารถเข้ากับการตกแต่งบ้านในทุก ๆ สไตล์อีกด้วย นอกจากนี้ยังคงแข็งแรง ทนทาน และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายมาก ๆ เลยทีเดียว  ส่วนท่านใดที่กำลังมองหาและต้องการอยากจะเลือกซื้อเลือกใช้ วันนี้ทางเรา เคพีพี ออนไลน์ มี เทคนิคการเลือกซื้อกระเบื้องปูพื้น เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในบ้าน ดังนี้ค่ะ

1. ควรเลือกใช้กระเบื้องไว้สำหรับปูพื้นเท่านั้น

เนื่องจากงานพื้นถือได้ว่าต้องคอยรองรับน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่อาศัย เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสิ่งของตกแต่งภายในบ้านอีกมากมาย หากได้มีการเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นที่มีความแข็งแรง ทนทาน อย่างเช่น กระเบื้องประเภท Floor Tile ซึ่งเป็นกระเบื้องเนื้อพอร์ชเลน จะมีทั้งเคลือบสีและแบบมีลวดลาย และยังมีแบบผิวหน้ากับตัวกระเบื้องมีความเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเรียกว่า กระเบื้องแกรนิตโต นั่นเอง

2. ควรเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นที่มีความเหมาะสม

หากเป็นห้องที่มีขนาดเล็กเป็นสำคัญ สามารถใช้กระเบื้องปูพื้นแบบแผ่นเล็กได้เช่นกัน ซึ่งขนาดจะอยู่ที่ 12 นิ้ว x 12 นิ้ว หรือไม่ก็ 16 นิ้ว x 16 นิ้ว หรือจะเป็นกระเบื้องที่ใช้สำหรับปูพื้นแบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็ได้ เพื่อส่งผลทำให้ห้องมีลักษณะที่กว้างขึ้น แต่สำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่อยู่แล้ว สามารถใช้กระเบื้องแบบแผ่นใหญ่ได้เช่นกัน อย่างเช่น ขนาด 24 นิ้ว x 24 นิ้ว เป็นต้น  

3. ควรเลือกรูปแบบ สีสัน และลวดลายให้เข้ากับตัวบ้าน

ในส่วนของรูปแบบ สีสัน และลวดลายของกระเบื้องปูพื้น ถ้าจะให้ดีควรสัมพันธ์กับสีสัน  หรือสไตล์การตกแต่งบ้าน ยกตัวอย่างเช่น กระเบื้องแบบลายหิน มักจะมีความเหมาะสมกับสไตล์โมเดิร์นเป็นสำคัญ หรือไม่ก็สไตล์คลาสสิกแบบร่วมสมัย แต่ถ้าหากจะเป็นผิวเงาจะส่งผลทำให้บริเวณบ้านมีความหรูหราขึ้นได้ ส่วนกระเบื้องที่เป็นลายไม้มักจะเหมะสมกับการตกแต่งบ้านแนวธรรมชาติ นั่นเอง

4. ควรเลือกเกรดของกระเบื้องปูพื้นให้ตรงต่อการนำไปใช้งาน

อีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาผ่านการเลือกซื้อ กระเบื้องปูพื้น นั่นก็คือ ควรเลือกเกรดของตัวกระเบื้องให้ตรงต่อการนำไปใช้งานด้วย โดยปกติแล้วกระเบื้องจะถูกแบ่งออกเป็น 2 เกรด หลัก ๆ ดังนี้

• กระเบื้องสำหรับปูพื้นแบบเกรด A

จัดได้ว่าเป็นกระเบื้องที่มีความสมบูรณ์แบบมาก ๆ ถึงขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งจะไม่มีตำหนิให้เห็นแต่อย่างใด ในส่วนของกระเบื้อง COTTO มักจะระบุว่าเป็นกระเบื้องเกรด PM ซึ่งย่อมาจากคำว่า Premium Grade นั่นเอง

• กระเบื้องสำหรับปูพื้นแบบเกรด B

ในส่วนของกระเบื้องเกรด B นั้น จะเป็นกระเบื้องปูพื้นที่มีตำหนิอยู่บ้าง แต่จะไม่เกิน 3 จุดด้วยกัน ราคาจะต่ำกว่าเกรด A และมีความเหมาะสมต่อการนำไปใช้งานในส่วนของพื้นที่ไม่ต้องโชว์ความสวยงาม